คำนำ:

เราสามารถระบุจุดเจ็บจริง ๆ ได้เฉพาะผ่านการสื่อสารเท่านั้น

หลายคนต่อสู้กับความคิดที่การเพิ่มทุนเล็ก ๆ น้อยมากค่อนข้างยากเหมือนการปีนสู่สวรรค์ แต่นั้นไม่ถูกต้อง สำหรับทุนเล็ก ๆ เพื่อขยายขึ้นหรือเพื่อเข้าสู่ตลาดหลัก ความสำคัญอยู่ที่การสร้างระบบซื้อขายที่มั่นคง (ฉันเกือบรำคาญตัวเองเมื่อพิมพ์คลิเช่นนี้) ทุกคนพูดหลักการที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ แต่มีเพียงเจ้าชายเท่านั้นที่อธิบายว่าจะสร้างระบบแบบนั้นหรืออธิบายโดยละเอียด

ดี ฉันจะทำเอง ฉันจะเขียน สไตล์ของฉันคือดิ้นรนและไม่กรองกรอา บางครั้งจะหยาบคาย บางครั้งก็จะตรงไปตรงมา หลีกเลี่ยงการพูดโม้ แต่ก็ไม่เป็นไร ตลาดนี้ต้องการคนที่จะเขียนเนื้อหาเช่นนี้

นอกจากนี้บทความนี้มีข้อความที่หนักหัวใจซึ่งอาจทำให้รู้สึกน่าเบื่อ ผู้ที่รู้จักงานของฉันเข้าใจว่าความประโยชน์และคำแนะนำที่ทำได้มีค่ามากกว่าทุกสิ่ง ดังนั้นฉันเชื่อว่าชิ้นงานนี้มีค่ามาก หากคุณรู้สึกสับสน โปรดใช้เวลาให้ดี อ่านอย่างรอบคอบ และคุณจะได้รับสิ่งที่คุณต้องการ

ฉันจะแบ่งปันเส้นทางและกลยุทธ์ของฉันเองเพื่อไปจากกว่าร้อย U ไปสู่การข้าม 1 ล้าน U

เต็มความโปร่งใส: ฉันยังไม่ได้โดน "A8" (ชั้นบุคลากรด้านคริปโท) ยังเป็นไกลจากผู้เล่นใหญ่ ดังนั้น ฉันไม่สามารถเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางสู่ A8.5 หรือ A9 และเนื่องจากฉันไม่คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จมากนัก ฉันจะเก็บ "เรื่องราวความสำเร็จ" ไว้จนกว่าฉันจะทะลุ 5 ล้าน U.

มาเริ่มต้นเลย สำหรับนักซื้อขายปลีก "ทุนเล็ก" คือระยะห่างระหว่างไม่กี่ร้อย U ถึง 1K-10K U สำหรับบทความนี้ เราจะสมมติจุดเริ่มต้นที่ 300U ดังนั้น นี่คือกลยุทธ์ในโลกจริงสำหรับการเดินทางจาก 300U ไปยัง 1M U ในตลาด MEME หลัก—หวังว่าจะช่วยประหยัดเวลาให้คุณบ้าง

(หมายเหตุ: การคำนวณข้อมูลทั้งหมดที่นี่มีความลำเอียงและเป็นเพียงหนึ่งเมตริกสำหรับการประเมิน)

1. การจัดระเบียบข้อมูล (โดยใช้ PUMP เป็นตัวอย่าง)

เรามาเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลบางส่วน

ในวันที่ 15 เมษายน PUMP สร้างเหรียญ MEME 43,271 เหรียญ อย่างไรก็ตาม เพียง 408 โทเค็นเท่านั้นที่ “สำเร็จ” (เปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบ)

อัตราส่วนของการสำเร็จการศึกษาเพียง 0.94% - น้อยกว่า 1% นั่นหมายความว่า 99% ของโทเค็นตายในตลาดภายใน

นี่คือข้อมูลสำหรับโทเค็น 408 รายการที่เปิดตัวแบบเต็ม

2. ความเข้าใจลึกซึ้งของกลยุทธ์

กลยุทธ์สามารถจัดประเภทตามมิติสองมิติหลัก คือ ความถี่ในการเทรด (สูง/ต่ำ) และเป้าหมายกำไรขั้นสูง (สูง/ต่ำ)

โดยรวมคุณลักษณะเหล่านี้ เราจะได้รับสี่โมเดลกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน

1. ความถี่สูง + ขอบกำไรสูง

2. ความถี่สูง + มาร์จินกำไรต่ำ

3. ความถี่ต่ำ + ขอบกำไรสูง

4. ความถี่ต่ำ + มาร์จินกำไรต่ำ

ต่อไปเราจะทำการวัดค่าของกลยุทธ์เหล่านี้ทางคณิตศาสตร์เพื่อเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของพวกเขา

เนื่องจากบทความนี้เน้นที่ยุทธวิธีทุนเล็ก จึงจะใช้ 300U เป็นขั้นตอนหลัก (จุดเริ่มต้นของฉัน) ยุทธวิธีสำหรับทุนขนาดใหญ่ (10K-200K U, 200K-1M U) จะมาในภายหลัง

ที่ 300U (~2.4 SOL), เรามาปัดเป็น 2.5 SOL สำหรับการคำนวณ

บันทึกสั้นๆ เกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์กำไร: เนื่องจากค่าแก๊สและค่ารับสินบน หากคุณขายเป็นจำนวน 0.1 SOL ต่อครั้ง แต่ละการซื้อขายมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.005 SOL (ที่ความเร็วมาตรฐาน) เพื่อทำให้กำไรศีลย์คุณต้องมีการซื้อขายอีกครั้ง ค่าใช้จ่ายอีก 0.005 SOL ค่าธรรมเนียมทั้งหมด: 0.01 SOL ดังนั้น คุณต้องมีกำไรอย่างน้อย 10% ต่อตำแหน่งทั้งหมดเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่าย อะไรก็ต่ำกว่านั้นหมายความว่าขาดทุน

1. โมเดลการซื้อขายความถี่สูง + รายได้กำไรสูง

เพื่อความสะดวกในการคำนวณ ให้ละเว้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมไว้ก่อน โดยที่มีจำนวนการซื้อขายสูงและมีการค้นหากำไรสูง ให้สมมติว่าคุณมี 2.5 SOL ในหนึ่งวันเดียวกัน ด้วยการซื้อขาย 0.1 SOL ต่อครั้ง และดำเนินการซื้อขาย 25 ครั้ง ไม่มีการดำเนินการหยุดขาดทุน เนื่องจากเป้าหมายคือการตามหาตัวคูณที่สูง

หากใช้กลยุทธ์ “double to break even” หลังจาก 25 การซื้อขาย เพื่อเอาคืนเงินลงทุนเริ่มต้น คุณจำเป็นต้องมีการเพิ่มค่าสูงอย่างน้อยหนึ่งครั้ง—โดยเฉพาะ การเพิ่มขึ้น 4800% (48 เท่า)

เพื่อที่จะบรรลุตัวคูณดังกล่าว ทางเลือกที่เป็นไปได้เพียงวิธีเดียวคือการเข้าลงใน “ตลาดภายใน” (ในหมวด 43,271 โทเคน) และจับโทเคนที่มียอดมูลค่าตลาดเกิน 100K (16 โทเคน) ด้วย 25 ครั้ง ความน่าจะเป็นที่คำนวณการจับโทเคนที่มีโอกาสจะทำกำไรอย่างน้อยหนึ่งอย่างคือ 0.92% ซึ่งหมายความว่า ความน่าจะเป็นของคุณที่จะเสียเป็น 99.08%

โดยไม่มีกลยุทธ์ "คูณสองเพื่อกลับมาเท่าเดิม" การเพิ่มที่จำเป็นคือ 2500% (25 เท่า)

โดยอิงจากมูลค่าตามราคาตลาดเฉลี่ย (มูลค่าตลาดเฉลี่ยระหว่าง 53K–100K คือ 76.5K ดังนั้นการกลับได้ 25 เท่าจะต้องเข้าร่วมที่ 3.06K; อย่างไรก็ตาม มูลค่าตลาดเริ่มต้นของ PUMP มีอยู่แล้วที่ 3.8K) เส้นทางเดียวของคุณยังคงเป็นการซื้อเข้าสู่ตลาดภายในและจับโทเค็นที่เกิน 100K โอกาสในการกลับทุนยังคงอยู่ที่ 0.92% หากคำนวณรวมโทเค็นที่มีมูลค่าตลาด 95K โอกาสในการกลับทุนอยู่ระหว่าง 0.92%–2.06% โดยโอกาสของการขาดทุนยังคงอยู่ที่ประมาณ 98%

สรุป: ทำไมโอกาสของการสูญเสียสูงขนาดนั้น? เหตุผลที่ง่ายคือสาเหตุมีทุนไม่เพียงพอ ที่นี่ "ไม่เพียงพอ" หมายถึง ไม่มีอย่างน้อย 500 SOL

นักซื้อขาย PVP รายวันจะไม่บอกคุณว่าพวกเขามีเงินก้อนตามหมากว่า 2,000 SOL แต่พวกเขาเท่านั้นใช้ 2-10 SOL ต่อการเทรด ด้วยเงินทุนมากมายและความอดทนพวกเขาสามารถรอคอยได้เพื่อที่จะได้รับกำไรมากๆ อย่างเพียงเดียวและทำกำไรอย่างมีความหมาย ตามทางคณิตศาสตร์วิธีนี้เท่านั้นที่มีความหมายสำหรับขนาดทุนใหญ่ขนาดนี้

สำหรับเงินทุนขนาดเล็ก นอกจากจะมีโชคหรือทักษะพิเศษที่ไม่ธรรมดาที่จะช่วยคุณในฐานะผู้เริ่มต้นในการระบุและถือเหรียญที่มีตัวคูณสูงมากในหมื่นๆ ลองเพียงไม่กี่ครั้ง คุณจะสูญเสียเงินทุนทั้งหมดเป็นลายเส้นลง

2. จำนวนธุรกรรมสูง + การเร่งการรับราคาขายต่ำ

ใน PUMP, การเพิ่มโทเค็นเฉลี่ยอยู่ที่รอบ 663% หากเรากำหนด "ขีดจำกัดกำไรต่ำ" ว่าการบริหารกำไรที่ 15% - 100%, แล้วราคาใดก็สามารถรองรับเป้าหมายกำไร 100% ของเราได้ กรณีนี้แยกเป็นหลายกรณี:

(3.8K–53K) Inner Market: การซื้อที่นี่ต้องการโน้มน้าวผู้อื่นให้รับตำแหน่งของคุณ สำหรับการออกออกที่มีกำไรต่ำ คุณจะต้องการเพียงไม่กี่สิบเปอร์เซ็นต์ก่อนที่จะขาย

สิ่งนี้ค่อนข้างง่ายเพราะเพดานต่ําของตลาดภายในหมายความว่าคําสั่งซื้อขนาดเล็กสามารถผลักดันราคาให้สูงขึ้นได้ ตัวอย่างเช่นการเพิ่มเงินของคุณเป็นสองเท่าที่นี่อาจต้องใช้แรงกดดันในการซื้อเพียง ~ $ 4,000 (ประมาณ 40 คน) นี่ไม่ใช่เรื่องยาก - หลังจากซื้อแล้วแบ่งปันที่อยู่สัญญา (CA) ในหลายกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มที่มีคุณภาพสูงเหมาะอย่างยิ่งกับการเล่าเรื่องที่น่าสนใจให้กับ FOMO คนอื่น ๆ นี่คือกลยุทธ์เชิงปริมาณที่ผู้ค้าบางรายปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

(53K–100K) ต้องการแรงซื้อที่ค่อนข้างมาก ซึ่งหมายความว่าคุณต้องดึงดูดผู้คนให้เข้ามารับตําแหน่งของคุณมากขึ้น เงื่อนไขค่อนข้างเรียกร้อง -- เพียงแค่ชิลลิงในกลุ่มด้วยตัวเองจะไม่เพียงพอ คุณจะต้องพึ่งพาวิจารณญาณของคุณเองในการเลือก อย่างไรก็ตามเนื่องจากเรากําลังพูดถึงความน่าจะเป็นทางคณิตศาสตร์ที่นี่และไม่รวมปัจจัยตามประสบการณ์การเล่นแบบจําลองนี้ในช่วงนี้จึงเป็นเรื่องยากมาก ยิ่งไปกว่านั้นอย่างที่ทุกคนรู้กับ PUMP หากโทเค็นไม่เปิดตัวสําเร็จก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อเป็นเช่นนั้นส่วนใหญ่จะทิ้งทันทีทําให้ช่วงนี้เกือบจะไร้ค่าในแง่ของโอกาสที่แท้จริง

(100K–500K) สิ่งที่ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นในช่วงนี้มักจะเป็นอย่างไร?

1. นักซื้อขนาดเล็ก ("หัวใจขนาดเล็ก") 2. ความแท้จริงของเรื่อง (แม้กระทั่งมีมีมเล็กน้อยหรือการกระจายของข้อมูลที่เหมาะสมก็เพียงพอ) เราไม่สามารถพึ่งพาเฉพาะกำลังซื้อของนักเทรดขนาดเล็กหรือการคัดลอกเทรดได้ ดังนั้นเราต้องพึ่งพาประสบการณ์และความเห็นของเราในการประเมินเรื่องราว อีกครั้ง โดยยกเว้นปัจจัยนี้ ขอให้เรามองไปที่ข้อมูลทางคณิตศาสตร์เชิงรุก

โดยอ้างอิงจากข้อมูล เราทราบว่าในหมวด 16 โทเคนที่เกิน 100K มี 50% ไม่เกิน 500K ในขณะที่อีกส่วนเกิน 500K และไปข้าม 1M ข้อมูลนี้น่าสนใจมาก—ถ้าเราทำการเข้าไปเทรดในช่วงนี้ทุกครั้ง อัตราการชนะราว ๆ 43% และกำไรรวมโดยรวมอยู่ในช่วง 125% ถึง 675% คุณประหลาดใจกับสรุปนี้หรือไม่?

(500K–1M) + (>1M) ช่วงสองช่วงนี้คล้ายกัน ในการเดินทางเพื่อเข้าถึงระดับนี้ เงื่อนไขสำหรับการเพิ่มราคาคือ: 1. นักซื้อขายที่มีปริมาณมากเข้ามา 2. กลุ่มที่ทำให้ราคาพุ่ง (การจัดการ) 3. เรื่องราวระดับ 2 หรือสูงกว่า

อีกครั้ง ว่านักเทรดขนาดใหญ่เข้ามาหรือไม่นั้นไม่สามารถควบคุมได้— ยกเว้นว่าคุณเป็น 'พ่อ'. ซึ่งทิ้งไว้สองปัจจัย: การประเมินว่ามีกลุ่มการเติบโตอยู่หรือไม่ และการประเมินความแข็งแกร่งของเรื่องราวและการกระจาย

ปัจจัยทั้งสองนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์อย่างมาก จากมุมมองทางคณิตศาสตร์อย่างหมดจดหากเราเพิกเฉยต่อประสบการณ์และเข้าสู่ทุกการซื้อขายช่วงกําไรรวมโดยประมาณจะอยู่ที่ประมาณ 223%-1250% หรือสูงกว่านั้น (ไม่มีขีด จํากัด บน) สาเหตุของความผันผวนอย่างกว้างขวางในจํานวนนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกที่จะทํากําไรที่ไหน

3. จำนวนซื้อขายที่น้อย + แบบจำลองการผลกำไรสูง

หมวดหมู่นี้ดูเป็นทฤษฎีที่ขัดแย้งกันในที่แรก เนื่องจากมันต้องการทักษะและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม โดยที่ปัจจัยที่มีลักษณะเชิงส่วนบุคคลจะควบคุมกลยุทธ์ สำหรับมือใหม่ในการค้าปลีก วิธีการนี้นำเสนอคำแนะนำทางปฏิบัติน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม คำว่า "ดูเหมือน" ถูกเน้นหนาเพื่อเหตุผลหนึ่ง - หากคุณไม่ใช่นักซื้อขายราคาตลาดขนาดเล็ก ๆ แบบนี้ไม่ได้เป็น paradok แต่กับประสบการณ์และทักษะเพียงพอ การทุ่มเวลาในกลยุทธ์นี้ก็สามารถทำได้

4. จำนวนซื้อขายต่ำ + การตามหาโมเดลกำไรสุทธิที่ต่ำ

เงื่อนไขมีดังนี้: ซื้อขายน้อยลง (ควบคุมไว้ที่ 1~3 ครั้ง), มาร์จินกำไรต่ำ, มีขีดจำกัดสูงสุดที่ 100% สำหรับการเก็บกำไร, และจุดเก็บกำไรอยู่ระหว่าง 25% ถึง 100% จำนวนเงินในแต่ละครั้งคือ 0.5 SOL

ในโมเดลนี้เนื่องจากเหตุผลที่เกี่ยวกับปริมาณ 100K เป็นเกณฑ์สำคัญ พวกเรารวมช่วงเวลาและตั้งขีดจำกัดสูงสุดสำหรับช่วงเวลาที่มากกว่า 100K เป็น 5M

เข้าใจเงื่อนไขเหล่านี้เราเริ่มคำนวณผลตอบแทนที่คาดหวังในช่วงเวลาสองช่วงสำหรับโมเดลของเราที่มีการเทรดน้อยลง (เฉลี่ย 2 ครั้ง ละ 0.5 SOL ต่อครั้ง) + การตามหาช่องกำไรต่ำ (กำไรเฉลี่ยที่ 62.5%) ตามที่แสดงในภาพ

คุณอาจยังไม่เข้าใจในขณะนี้ แต่ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ทำให้คุณเปิดเผยตาขึ้นจริง ๆ ทำไม? เพราะในช่วง 100K-5M ความน่าจะเป็นในการเริ่มทำกำไรจริงๆ ถึง 99.67% คุณอาจจะไม่รู้สึกถึงมันอย่างแรง แต่ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ตามหลักคณิตศาสตร์ ความน่าจะเป็นของคุณในช่วงนี้ที่จะล้มเหลวมีเพียง 0.33% เท่านั้น

นั่นถูกต้อง - การซื้อขายน้อยลง + การมุ่งหารายได้ต่ำเป็นโมเดลที่เหมาะสมที่สุดในกลุ่มกลยุทธ์ทั้งหมด

สรุป: เมื่อเริ่มต้นด้วยส่วนทุนเล็ก ๆ โดยไม่คำนึงถึงประสบการณ์และความสามารถ มีสี่สถานการณ์ต่อไปนี้ ข้อมูลในรูปภาพด้านล่างเป็นข้อมูลที่สมจริงและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

3. การเข้าใจการซื้อขายอย่างฉลาด - บัญชีจิตวิทยา

ทุกอย่างที่กล่าวถึงจนถึงตอนนี้ยังไม่เคยสัมผัสถึงปัจจัยของจิตใจซึ่งมีอิทธิพลต่อการเทรดอย่างมาก ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ให้ฉันอธิบาย

ตอนเริ่มต้นของขั้นตอนนี้ ในฐานะนักซื้อขายราคาทุนเล็กๆ ที่กำลังเข้าสู่ตลาดนี้ นอกจากการกำหนดบัญชีทุนของคุณ ฉันขอแนะนำบัญชีอีกอันที่นี่ — บัญชีจิตใจ สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมันเป็นบัญชี ให้ฉันพูดถึงข้อดีและข้อเสียของการเพิ่มขึ้นและลดลงในบัญชีจิตใจ

- ข้อเสียของวงจรที่ลดลงอย่างรุนแรงในบัญชีจิตวิทยา

หลายคนเข้าสู่ตลาดนี้ ดูเรื่องราวเรื่องราวของความมหัศจรรย์ทางการเงิน และเริ่มซื้อขายแบบสุ่มและตามกระแสเหมือนเรื่องราวเหล่านั้นเสมอ ๆ คนเหล่านั้นยังคงกระโดดเข้าไปทำการเทรดโดยตลอดเวลา โดยตลอดเวลาพบความสูญเสีย และจากนั้นจะต้องตัดตำแหน่งของพวกเขาเสมอ ๆ ในขบวนการนี้ บัญชีจิตใจของพวกเขาไม่เคยเติบโตขึ้น มันก็ยังคงเสื่อมลงไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขามีความกล้ามากขึ้นและมั่นใจน้อยลง

เมื่อคุณล้มเหลวหลายครั้งติดต่อกัน คุณจะกล้าที่จะวางเดิมพันเพื่อชนะครั้งต่อไปได้อย่างไร

โดยมีผลจากสิ่งนี้ คุณเชื่ออย่างเป็นนิสัยว่าเพื่อทำให้สินทรัพย์ขนาดเล็กๆ เติบโต คุณต้องจับตาเหรียญที่มีมูลค่าสูงมากอย่างสุดๆ ตั้งแต่เริ่มต้น มองข้ามโอกาสที่เสี่ยงโดยสูงกว่าด้วยความมั่นใจมากขึ้น คุณยังคงจับตาหน้าตายตลอดเวลาโดยไม่หยุดนิ่งเพื่อคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับคุณจริงๆ ไม่เคยกำหนดอย่างชัดเจนว่ากลยุทธ์ใดเป็นที่เหมาะสมและสามารถทำได้อย่างมีเหตุผล

คุณไม่รู้อะไรเลย แค่สิ่งเดียว: อัตราการจ่ายเงินคือทุกอย่าง โดยไม่เคยสงบสติในระบบการซื้อขายของคุณเอง คุณก็จะตกอยู่ในลูกศรตกต่ำไปสู่อนิตยานี้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดและออกจากตลาดในความเงียบด้วย

สถานการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่หดหู่ จงจินตนาการถึงวันหนึ่ง หลังจากที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานมามากมาย ท่านสุดท้ายก็ยืนหนึ่งต่อหน้ามังกรได้ ท่านดูเหมือนจะเข้าใจว่าหากท่านดึงดาบของท่าน ท่านก็จะเติบโตเป็นบุษย์มหาสมบัติ แต่ดาบของท่านก็เน่าเป็นแล้ว และท่านได้ใช้ความกล้าแรงแรงเริ่มต้นของท่านไปหมดแล้ว แม้แต่ถ้าท่านดึงดาบของท่าน ท่านก็ไม่สามารถตัดหัวมังกรที่ภูมัยได้—หรือบางทีท่านอาจจะไม่มีความกล้าพอที่จะดึงดาบ

เมื่อคุณอ่านข้อความนี้ ฉันหวังว่าคุณจะหยุดพัก มองกลับไปที่การวิเคราะห์ของฉัน และคิดอย่างจริงจัง ทำความเข้าใจอย่างละเอียดว่าคุณควรนำกลยุทธ์เฉพาะอะไร

- ประโยชน์จากวงจรดีของการเพิ่มขึ้นในบัญชีจิตใจ

นี่ไม่ต้องบอกกัน คุณได้ความมั่นใจ เป็นมากกว่านั้น และหยุดการนำสตรีส์เข้ามาในตัว อารมณ์ประจุรุนแรงของคุณดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ง่ายต่อการสงบ และคิดอย่างชัดเจน ต่อหน้าโอกาสที่สำคัญ คุณสามารถระบุจำแนกได้ง่ายขึ้น และกล้าดำเนินการ ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งฉันจะไม่ขยายนานมาก

4. การดำเนินการแบบละเอียดของกลยุทธ์ทางเฉพาะ

งั้น คุณควรดำเนินการอย่างไร? ที่นี่ ฉันจะแยกอธิบายให้คุณอย่างละเอียด

กลยุทธ์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ 350-200K

ก่อนอื่น คุณควรแบ่งทุน 2.5 SOL ของคุณอย่างเข้มงวดเป็นสองหมวดหมู่ หมวดแรกคือบัญชีซื้อขาย ที่คุณจัดสรร 1.5 SOL

การเทรดแต่ละครั้งควรจำกัดที่ 10% ของบัญชีเทรดนี้ หรือ 0.15 SOL

ในต้นแรก ควรเน้นการซื้อขายเหรียญ MEME ที่มีราคาต่ำสุดแล้ว ตัวอย่างเช่น ล่าสุดอย่าง RFC, DARK, เป็นต้น ติดตามการเคลื่อนไหวราคาและซื้อขายเป็นคลื่น โอกาสจะไม่มาบ่อยทุกวัน ดังนั้น อดทน มิฉะนั้น ความน่าจะเป็นที่จะมีความสูญเสียจะสูง รอจุดเข้าซื้อที่เหมาะสม และเมื่อได้กำไรหลายสิบคะแนน รับไป เข้มงวดควบคุมอารมณ์ของคุณ - อย่าไล่ความร่ำรวยมากเกินไป

โดยทำเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง คุณจะสะสมประสบการณ์อย่างมั่นคงและเติบโตทางจิตใจของคุณ

1 SOL ที่เหลือจะเข้าบัญชีสำรอง หลีกเลี่ยงการสัมผัสบัญชีนี้บ่อยๆ วัตถุประสงค์ของมันคือการฝึกความสามารถในการตัดสินใจของคุณสำหรับโอกาสที่มีความน่าจะเป็นและมีขอบเขตใหญ่

อะไรถือว่าเป็นโอกาสที่มีความน่าจะเป็นสูงและมีขนาดใหญ่? พวกเขาไม่เกิดขึ้นบ่อย นี่คือตัวอย่างคลาสสิกบางอย่าง:

เมื่อบินานซ์ประกาศรายการ ACT อย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤศจิกายน ราคาขึ้นสูงถึง 25 เท่าในบ่ายเดียว การเพิ่มขึ้นของแนวโน้ม AI ที่ทำให้เหรียญชั้นนำขึ้นรายการอย่างมวลมากในวันเดียวกัน วันที่ทรัมป์เปิดตัวเหรียญของตัวเองอย่างไม่คาดคิด

เมื่อมีโอกาสแบบนี้ ให้ทำการวินิจฉัยและลงทุน 30% ของบัญชีสำรองนี้

หากคุณทำนายได้สำเร็จและใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์สามครั้งติดต่อกัน คุณจะได้พัฒนาความสามารถเบื้องต้นในการระบุมัน ตั้งแต่นั้นไป, เมื่อสถานการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้น, คุณสามารถเลือกที่จะลงทุนอย่างทั้งหมดในบัญชีนี้และเพิ่มผลตอบแทนของคุณอย่างต่อเนื่อง

ทำกลยุทธ์นี้อย่างต่อเนื่อง และสินทรัพย์ของคุณจะเติบโตจาก 300U ไปจนถึง 200KU

กลยุทธ์สำหรับกลยุทธ์จาก 200K ถึง 1M

หลังจากถึง A7 (มูลค่าสุทธิหลายแสน) คุณจะได้สัมผัสกับความสําเร็จอันยิ่งใหญ่ ถอนเงิน $ 50K - ไปผ่อนคลายดื่มด่ําเล็กน้อยและตอบสนองความต้องการทางวัตถุบางอย่าง ความคิดของคุณจะยกระดับอย่างมีนัยสําคัญ—เชื่อฉันเถอะ คุณจะไม่เดือดร้อนจากเรื่องเล็กน้อยของชีวิตอีกต่อไป การปรับปรุงเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างทุนทางจิตวิทยาของคุณอย่างมาก

ในขั้นตอน A7 ทุนจิตวิญญาณของคุณมีประสิทธิภาพและประสบการณ์ของคุณเป็นที่น่าพอใจ เป็นเวลาที่จะคิดลึกลงไปมากขึ้นและกระทำอย่างไม่คลุมเคร่ง

เส้นทาง 1: ลดความถี่ในการเทรดและให้ความสำคัญกับการเทรด MEME ที่เป็นที่รู้จักมากขึ้น ใช้เวลาวันละเวลาในการวิเคราะห์และมองหาโอกาส แต่จำไว้—ด้วยระดับสถานที่นี้ของเงินทุน อย่าทำรายละเอียด, อย่าทำรายละเอียด, อย่าทำรายละเอียด! จัดสรรเพียง 20% สำหรับการเทรด เมื่อวางเงิน 150K ในลักษณะนี้ การข้ามไปที่ 1M เป็นไปได้อย่างแน่นอน

เส้นทางที่ 2: เข้าร่วม PVP (ผู้เล่นกับผู้เล่น) โดยการเข้าร่วมการเปิดตัวเหรียญใหม่ ทุนของคุณช่วยให้สามารถทดลองและผิดพลาด และสำรองจิตที่แข็งแกร่งพอให้ครอบคลุมความสูญเสียผ่านการพยายามหลายครั้ง - หรืออาจได้รับกำไรมหึมา

คำประเด็นสุดท้าย

ทิวทัศน์ MEME ดูเหมือนจะแยกออกเป็นสองยุค: ยุคก่อน Trump และยุคหลัง Trump (ตอนนี้)

ผู้ที่ได้กำไรจากทรัมป์ถอน Likelihood มโนมหายใจขนาดใหญ่ สั่งเฉย ๆ หรือตัดสินใจลาออกในที่สุด ผู้ที่พลาดการลงทุนยังอยู่ในตลาด ประจบวันละ ๆ และบ่อยครั้งที่พบกำแพงและต่อสู้เพื่อทำกำไรที่มีความหมาย

ฉันไม่เก่งในการพูดแรงบันดาลใจในระยะยาว สำหรับฉัน สำคัญมากหนึ่งคำคำนี้เสมอไป

“ตลาดเกิดขึ้นเสมอในความสิ้นหวัง”

ให้ฉันเล่าประสบการณ์ของฉันบ้าง ณ สิ้นปี 2023 ในตลาดอื่น ๆ ความสามารถในการจ่ายเงินได้หมดไปอย่างสิ้นเชิง นั่นก็คือจุดต่ำสุดของฉันด้วย—เต็มไปด้วยความไม่แน่ใจเกี่ยวกับอนาคตและความผิดหวังในตัวเอง

ฉันโกรธมาก ฉันเกลียด ฉันเกลียดตัวเอง ทำไมฉันไม่ได้รับเงิน? ทำไมฉันเสียเสียง? ทำไมฉันไม่สามารถบรรลุชีวิตที่ฉันต้องการ? ทำไมฉันพลาดโอกาสทุกๆ ครั้ง?

แต่สิ่งที่ทำให้ฉันแตกต่างกันคือว่า ไม่ว่ามันจะดูไม่มีหวังเลยก็ตาม ฉันยังคงอยู่ในตลาด ฉันต้องการทดสอบว่าคำพูด "ตลาดเกิดขึ้นจากความสิ้นหวัง" นั้นมีความจริงอยู่หรือไม่

แล้วในหนึ่งวัน ฉันได้จับคลื่นที่ถูกต้อง ฉันขึ้นบนรถเข็นของผู้ช่วยที่เสมอฉายในตลาดที่มืดมนที่สุด ขี่ไปในเสถียรภาพ และรอดตาย ฉันไม่คิดว่ามีทักษะใด ๆ ในการจับโอกาสนั้น—แค่ความต่อเนื่อง

อย่าพูดว่าโลกนี้ไม่มีปาฏิหาริย์ - ลึกลับในชักน้ำ, เทพเจ้าเปิดเผยความลับของตัวเอง

ข้อความประกัน

1. บทความนี้ถูกคัดลอกมาจาก [ Shanks] ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [Shanks], if you have any objections to the reprint, please contact the Gate Learnทีม และทีมจะดำเนินการเมื่อเป็นไปได้ตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด

2. คำประกาศ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เพียงแสดงเฉพาะมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เกิดเป็นการให้คำแนะนำทางด้านการลงทุนใดๆ

3. เวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn และไม่ได้กล่าวถึงGate.io, บทความที่ถูกแปลอาจไม่สามารถทำสำเนา, แจกจ่าย หรือลอกเลียนได้