สรุป

บริการคลาวด์แบบกระจายอํานาจได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันในโลกแห่งความเป็นจริงที่สําคัญที่สุดของเทคโนโลยีบล็อกเชน การรวม Web3 และบริการคลาวด์นําเสนอการเล่าเรื่องที่น่าตื่นเต้นซึ่งได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมโดยการรวม AI อย่างไรก็ตาม การบรรลุฉันทามติทันทีสําหรับการคํานวณในสภาพแวดล้อมแบบอะซิงโครนัสล้วนๆ เช่น บริการคลาวด์ก่อให้เกิดความท้าทายทางเทคนิคที่สําคัญสําหรับ DFINITY IC Arweave AO หลุดพ้นจากข้อจํากัดของบล็อกเชนแบบดั้งเดิมโดยไม่ได้จัดการการคํานวณหรือฉันทามติโดยตรง แทนที่จะใช้แบบจําลองทางเศรษฐกิจและการตรวจสอบที่ขี้เกียจเพื่อรับประกันความถูกต้องของผลการคํานวณโดยนําเสนอแนวทางใหม่ในการประมวลผลแบบกระจายอํานาจ

ข้อมูลพื้นฐาน

คลาวด์เป็นสภาพแวดล้อมทางไอทีที่นำเสนอรายละเอียด, รวมรวม, และแบ่งปันทรัพยากรที่สามารถขยายขนาดได้ในระบบเครือข่ายทั้งหมด ทรัพยากรเหล่านี้รวมถึงพลังการคำนวณ, พื้นที่จัดเก็บข้อมูล, และแบนด์วิดท์ของเครือข่าย คุณลักษณะทางเทคนิคหลัก ๆ รวมถึงเทคโนโลยีเสมือน, การจัดการทรัพยากรแบบกระจาย, และเทคโนโลยีการดำเนินงานแบบขนาน โดยเปรียบเทียบกับสภาพแวดล้อมไอทีแบบดั้งเดิมที่อิงตัวบนเครื่องกลของกลุ่ม, คลาวด์มีต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากกว่า, สามารถขยายขนาดได้, และง่ายต่อการจัดการ

บริการคลาวด์ การคำนวณคลาวด์ และการจัดเก็บข้อมูลในคลาวด์เป็นแนวคิดย่อยที่ได้มาจากแนวคิดที่กว้างกว่าเรื่องคลาวด์ การคำนวณคลาวด หมายถึงการ提供บริการคำนวณผ่านทางคลาวด์ การจัดเก็บข้อมูลในคลาวด หมายถึงการ提供บริการจัดเก็บข้อมูลผ่านทางคลาวด และบริการคลาวดครอบคลุมบริการ IT ต่าง ๆ ที่提供ผ่านทางคลาวด รวมถึงบริการทั้งการคำนวณและการจัดเก็บข้อมูล ควรระวังว่าการคำนวณคลาวดและบริการคลาวดมักจะถูกพิจารณาว่าเป็นคำที่หมายถึงเดียวกันในบางบทความ แต่บทความนี้จะแยกแยะระหว่างทั้งสอง

ปัจจุบัน ตลาดบริการคลาวด์ถูกควบคุมโดยผู้เล่นระดับใหญ่หลายราย ในระดับโลก Amazon Web Services (AWS), Google Cloud Platform (GCP), และ Microsoft Azure ครอบคลุมกว่า 60% ของตลาด ในระดับประเทศ Alibaba Cloud, Tencent Cloud, และ Huawei Cloud ครอบคลุมประมาณ 60% ของตลาดในประเทศจีน แสดงให้เห็นถึง Matthew effect ที่สำคัญ

บริการคลาวด์แบบกระจาย อีกด้านหนึ่ง ทำให้รูปแบบบริการคลาวด์ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน พวกเขาขึ้นอยู่กับกำลังตลาดเพื่อกำหนดค่าและการจัดสรรพลังการคำนวณพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และแบนด์วิดธ์นอกจากนี้ยังสามารถบรรลุการจัดสรรทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพและตรงต่อไปได้ แต่ยังทำลายการสมรรถนะของยักษ์ใหญ่ในการให้บริการคลาวด์อีกด้วย โดยเพราะทรัพยากรใต้หลังคาทั้งหมดถูกผู้ใช้สร้างขึ้น หากโครงสร้างเศษเสียของเครือข่ายบริการคลาวด์แบบกระจายกลายเป็นไม่เหมาะสม ผู้ใช้สามารถเลือกออกจากเครือข่ายหรือเข้าร่วมกับเครือข่ายบริการคลาวด์แบบกระจายอื่น นี้จำกัดความสามารถของผู้ให้บริการคลาวด์แบบกระจายในการมีส่วนร่วมในปฏิบัติที่เสียหาย

เส้นทางของการพัฒนาบริการคลาวด์ที่มีความเฉลี่ยทางการกระจาย

การคำนวณแบบกระจายไม่ได้ถูกกล่าวถึงในที่นี้เนื่องจากผู้เขียนเชื่อว่ามันเป็นข้อเสนอที่ผิดพลาด ในที่แรกสัญญาอัจฉริยะในบล็อกเชนมีความรับผิดชอบต่อการคำนวณแบบกระจายอย่างสมบูรณ์ ในที่สองสำหรับงานคำนวณที่ซับซ้อน การกระจายแสดงถึงการสูญเสียพลังการคำนวณ ไม่ควรพยายามทำให้เป็นกระจายเพื่อประโยชน์ตนเอง การคำนวณกระจายที่สามารถยืนยันอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ซึ่งผู้เขียนจะอธิบายต่อไป

เมื่อเทียบกับการคำนวณทันที การจัดเก็บแบบถาวรเป็นฉากการประยุกต์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการกระจายอำนาจ มันช่วยให้ข้อมูลถูกเก็บรักษาและกระจ敯在เครือข่ายที่กระจ敯 งทั้งยังทำให้ข้อมูลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงและต้านทานการเซนเซอร์ได้ ในความเป็นจริงการจัดเก็บแบบกระจายได้เป็นหนึ่งในแอพพลิเคชั่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของบล็อกเชนในฉากการเงิน

ในปี 2014 Protocol Labs ขอเสนอ IPFSระบบไฟล์ระหว่างดาวเปิดประตูสู่การจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายในลักษณะที่มีขนาดใหญ่มาก IPFS นำการระบุไฟล์โดยการใช้เนื้อหามาใช้เป็นที่อยู่ของไฟล์เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟล์เดียวกันถูกเก็บไว้หลายครั้ง และประหยัดพื้นที่จัดเก็บไฟล์อย่างมีนัยยะ ระบบยังใช้เครือข่าย P2P ทำให้ข้อมูลสามารถถูกดาวน์โหลดพร้อมกันจากโหนดหลายๆ โหนด ทำให้ลดต้นทุนทรัพยากรแบนด์วิดธ์อย่างมีนัยะ สิ่งนี้ทำให้ IPFS เป็นโปรโตคอลพื้นฐานสำหรับโครงการการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายหลายๆ โครงการ โดย Filecoin เป็นโครงการที่แทนที่มากที่สุด

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2017 Protocol Labs, ผู้พัฒนา IPFS, ประกาศถึงการสร้างโครงการ Filecoin โครงการ Filecoin เป็นชั้นแอปพลิเคชันและระบบโซ่สาธารณะบน IPFS network มันใช้กลไกการตรวจสอบแบบผสม โดยมีพื้นฐานใน Expected Consensus (EC) และเสริมด้วย Proof of Spacetime (PoSt) และ Proof of Replication (PoRep) วิสัยทัศน์ของ Filecoin คือการสร้างแรงกระตุ้นให้จำนวนโหนดมากมายทั่วโลกให้บริการเก็บข้อมูลและเรียกข้อมูล เพื่อส่งเสริมการใช้งานอย่างแพร่หลายของโปรโตคอลการจัดเก็บและส่งข้อมูลของ IPFS

เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2017 Stroj Labs ก่อตั้ง Storj โดยเกือบพร้อมกับ Filecoin Storj ตั้งตัวเองเป็นบริการจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กร มุ่งไปทางการค้ามากขึ้นโดยแข่งขันโดยตรงกับบริการ S3 ของ AWS อย่างไรก็ตาม โครงสร้างของ Storj เป็นสมมติที่มีการกระจาย อนึ่ง แม้ว่าเริ่มออกโทเค็นในปี 2018 การจัดการข้อมูลเมตาดาต้า การผลิตบล็อก รางวัล และโทษทั้งหมดถูกจัดการโดยโหนดดาวเทียบกับซึ่งในปัจจุบันถูกดูแลเฉพาะโดยทีมงานของโครงการ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแผนอนาคตรวมถึงการกระจายโหนดดาวเทียบกับ ปัญหาน่าท้าทายที่จะแก้ไขในขณะนี้ ผลทำให้สถานะปัจจุบันยังคงคล้ายกับการจัดเก็บข้อมูลแบบ传统ที่ปกคลุมด้วยลิขสิทธิของ blockchain

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 เครือข่ายหลัก Arweave ได้เริ่มเปิดให้บริการArweave ไม่ใช่เลเยอร์จูงใจตาม IPFS แต่รวมการจัดเก็บข้อมูลและสิ่งจูงใจเข้าด้วยกันโดยมุ่งเน้นที่การเปิดใช้งานการจัดเก็บและการเข้าถึงข้อมูลถาวร Arweave ไม่ต้องการให้นักขุดเก็บรักษาบันทึกบล็อกทั้งหมด แต่สนับสนุนให้นักขุดบันทึกบล็อกให้ได้มากที่สุดโดยเฉพาะบล็อกที่มีความซ้ําซ้อนน้อยกว่าผ่าน Simplified Proofs of Random Access (SPoRA) นักขุดที่ทําเช่นนี้มีโอกาสสูงที่จะได้รับรางวัลการขุด โดยพื้นฐานแล้ว Arweave รับรองว่าข้อมูลจะถูกคัดลอกให้มากที่สุดเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของการจัดเก็บข้อมูลผ่านแนวทางทฤษฎีเกม

ในเดือนพฤษภาคม 2021 อินเทอร์เน็ตคอมพิวเตอร์ (IC) ที่พัฒนาโดยมูลนิธิ DFINITY เริ่มใช้งานIC เป็นบริการคลาวด์ที่ไม่ centralize ครั้งแรก ได้รับความชื่นชมว่าเป็นโครงสร้างบล็อกเชนรุ่นที่สาม ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนที่นวลนวล IC สามารถให้ความยืดหยุ่นได้ไม่จำกัดและการประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็ว และสามารถจัดการคำขอ HTTP เพื่อสนับสนุนแอปพลิเคชันที่ไม่ centralize ในมาตรฐานขนาดใหญ่ตั้งแต่แพลตฟอร์มสื่อสังคม บริการโฮสต์โปรเจกต์โอเพนซอร์ส ไปจนถึงแอปพลิเคชันระดับองค์กรต่าง ๆ และแม้แม่น้ำไอ รุ่นใหญ่ ๆ จะสามารถทึบิดบริการอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่ใน IC เป็นรุ่นที่ไม่ centralize

ในเดือนพฤศจิกายน 2022 การเกิดขึ้นของ ChatGPT ถือเป็นก้าวสําคัญในปัญญาประดิษฐ์ที่แข็งแกร่งและทําให้เกิดความนิยมปัญญาประดิษฐ์รอบใหม่ บริษัทเกิดใหม่ AI ได้ผุดขึ้นเหมือนเห็ดหลังฝนตก ด้วยการอัพเกรดซ้ํา ๆ ของรุ่นใหญ่กําเนิดความต้องการและต้นทุนของพลังการประมวลผลได้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ด้วยเหตุนี้การติดตามพลังการประมวลผลแบบกระจายอํานาจจึงถือกําเนิดขึ้นซึ่งมุ่งมั่นที่จะใช้พลังการประมวลผลที่ใช้ร่วมกันเพื่อลดการฝึกอบรมโมเดลขนาดใหญ่สําหรับองค์กรเกิดใหม่ AI ค่าใช้จ่ายทําให้การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมอ่อนแอลงเนื่องจากยักษ์ใหญ่ด้านบริการคลาวด์ใช้ประโยชน์จากตําแหน่งที่โดดเด่นของพวกเขา

โครงการที่มีชื่อเสียงในการแข่งขันพลังการคำนวณแบบกระจายรวมio.net, Render, Akash, Gensyn, etc. อย่างไรก็ตามพวกเขายังสามารถจัดหมวดหมู่ในบริการคลาวด์แบบกระจายได้โครงสร้างพื้นฐานหลักของพวกเขาอยู่ในการสร้างตลาดพลังคำนวณและสร้างส่วนสนับสนุนให้กับผู้ให้บริการพลังคำนวณ นี้ใกล้เคียงกับนิยามของ DePIN (Decentralized Physical Infrastructure Networks)

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 Arweave ได้เปิดตัวเซอร์เวอร์คอมพิวเตอร์สูงสุด AO* อย่างเป็นทางการกลายเป็นบริการคลาวด์ที่บริการทั้งหมดครั้งที่สองหลังจาก IC จาก DFINITY การเดินทางของการพัฒนาบริการคลาวด์แบบกระจายต่อไป

Arweave AO: การแยกการคำนวณและข้อตกลง

ทั้ง DFINITY IC และ Arweave AO เป็นบริการคลาวด์แบบไม่มีจุดกำหนดทั้งหมด ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันมาก ๆ โดยที่ อันดับแรก ทั้งสองรองรับการกระจายของบริการอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่และการนำเข้าโมเดล AI ใหญ่ให้ทำงานในสมาร์ทคอนแทรคบล็อกเชน อันดับสอง โครงสร้างของพวกเขาถูกออกแบบขึ้นโดยใช้แบบจำลอง Actor โมเดล Actor เป็นหน่วยพื้นฐานของโมเดลการคำนวณพร้อมกันในวิทยาการคอมพิวเตอร์ การนำโมเดล Actor เข้าไปใช้งานเหมาะสำหรับการสร้างระบบที่สามารถรองรับการใช้งานพร้อมกันสูง การกระจาย ระบบทนต่อข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของชื่อ Arweave AO เช่นกัน

ความแตกต่างหลักระหว่างทั้งสองคือชั้นเก็บข้อมูล ชั้นดำเนินการ และชั้นตรวจสอบ

• ชั้นเก็บข้อมูล: สัญญาอัจฉริยะบน DFINITY IC ชื่อ Canister Canister มีคอนเทนเนอร์ที่ได้รับการกำหนดเฉพาะเพื่อตัวเอง (คล้ายกับ Docker) ข้อมูลของแต่ละ Canister ถูกห่อหุ้มอยู่ในคอนเทนเนอร์ที่เป็นอิสระของตัวเอง และข้อมูลไม่สามารถมองเห็นได้โดยโลกภายนอก รายละเอียด: ข้อมูลภายในสามารถเข้าถึงได้เฉพาะผ่านอินเตอร์เฟซที่จัดไว้โดย Canister Arweave AO ขึ้นอยู่กับ Arweave และข้อมูลจะถูกเก็บไว้ใน Arweave และเป็นข้อมูลสาธารณะต่อโลกภายนอก
• Execution layer: เครื่องจำลองเสมือนของ DFINITY IC คือ WASM โค้ด Canister จะถูกคอมไพล์เป็นโมดูล WASM เพื่อการติดตั้งและรันบน IC มันรองรับเฉพาะมาตรฐานเช่นอินเทอร์เฟซระบบ WebAssembly Arweave AO ยืดหยุ่นมากกว่า ตราบใดที่ทำตามมาตรฐานโปรโตคอล AO สามารถใช้เครื่องจำลองเสมือนใดก็ได้ รวมถึง EVM WASM Move VM เป็นต้น ภาษาพัฒนาสัญญา AOS ปัจจุบันที่สร้างขึ้นโดย Arweave คือ Lua
• ชั้น Consensus:DFINITY IC’s subnet adopts a variant of BFT (Byzantine Fault Tolerance, Byzantine Fault Tolerance) consensus, and subnets are verified through Chain-Key technology; Arweave AO is based on SCP (Storage-based Consensus Paradigm) , is a storage-based consensus paradigm that emphasizes that consensus occurs at the storage layer and uses Arweave for immutable storage to ensure security and verifiability.

จากการเปรียบเทียบข้างต้น จะเห็นได้ว่า DFINITY IC ยังคงทำตามแบบแผนบล็อกเชนมาตรฐาน ในขณะที่ Arweave AO ดูเหมือนน้อยลงจากบล็อกเชนทั่วไป โดยที่มันไม่มีกลไกความเห็นร่วม ดังนั้น มันจึงทำอย่างไรให้แน่ใจว่าโหนดต่าง ๆ ตกลงกันเกี่ยวกับผลลัพธ์การคำนวณ?

คำตอบคือ Arweave AO ไม่สามารถ保证ผลลัพธ์การคำนวณที่สม่ำเสมอ ผลลัพธ์การคำนวณของมันไม่สร้างพิสูจน์ใด ๆ (เช่นต้นไม้ Merkle) แต่การเก็บข้อมูลที่ไม่เปลี่ยนแปลงของ Arweave สามารถที่จะตรวจสอบได้การแยกความรับผิดชอบในการคำนวณและการเห็นด้วยคือส่วนที่ชาญฉลาดที่สุดของการออกแบบ Arweave AO

Arweave stores the holographic data of AO and every thread on AO. Anyone can recover AO and any thread on AO through this holographic data. This is actually the ความคิดหลักของ SCP คือ ก็คือ หากการจัดเก็บเป็นอย่างยั่งนั้น ทุกธุรกรรมบนมันสามารถติดตามได้ ดังนั้นไม่ว่าแอปพลิเคชันจะคำนวณที่ไหน ผลลัพธ์เดียวกันก็จะได้

เมื่อปัญหาการตรวจสอบถูกแก้ไขแล้ว โมเดลเศรษฐศาสตร์ของ AO สามารถใช้เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนให้ผลการคำนวณที่ถูกต้อง โดยมีความคล้ายคลึงกับกลไกกำลังทุนของโหนด Chainlink ใน DON โหนดต้องมัดจำโทเคนก่อนเมื่อเข้าร่วมเครือข่าย AO เมื่อโหนดให้ผลการคำนวณที่ถูกต้อง จะได้รับสิทธิและเมื่อให้ผลการคำนวณที่ไม่ถูกต้อง จะได้รับการลงโทษ

สรุป

บริการคลาวด์แบบกระจายที่มีใบราคามีชื่อเสียงมาตั้นแล้วว่าเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันทางภาคธุรกิจที่สำคัญที่สุดของเทคโนโลยีบล็อกเชนการรวมกันของ Web3 และบริการคลาวด์ไม่เพียงทำให้เกิดทิศทางเรื่องน่าตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังผสมผสานอย่างไม่มีช่องว่างกับ AI ซึ่งเพิ่มศักยภาพของมันได้อีกด้วย

บริการคลาวด์ที่ไม่มีการจำกัดได้เจริญเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาหลายปีตั้งแต่ IPFS เริ่มต้น ทางเทคนิคมากมาย การเก็บรักษาข้อมูลและโปรโตคอลการคำนวณรากฐานได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบ จากมุมมองของตลาดมีความต้องการมากมายสำหรับเครือข่ายการแบ่งปันทรัสตัวที่เกิดมาจากพลังการคำนวณ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามีการพัฒนาเหล่านี้ แต่ยังขาดข้อเสนอแนะอย่างชัดเจน และสิ่งที่มีอยู่ก็ยังไม่สมบูรณ์

ก่อนที่จะเปิดตัว DFINITY's IC ถูกพิจารณาเป็น AWS ของ Web3 ถูกมอบมงคลว่าสถาปัตยกรรมบล็อกเชนรุ่นที่สาม นับว่ามีความยากลำบากเมื่อเปิดตัวและเริ่มก้าวไปข้างหน้าเมื่อเร็ว นอกจากปัจจัยตลาดแล้ว การบรรลุความเห็นร่วมทันทีสำหรับการคำนวณในสภาพแวดล้อมแบบไม่เชื่อมต่อ อย่างบริการคลาวด์ ต้องการทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง ความต้องการนี้มีผลต่อระดับการกระจาย ทำให้ลดความสำคัญของกลไกเห็นร่วมของบล็อคเชน

Arweave AO พังออกจากข้อจำกัดของบล็อกเชนแบบดั้งเดิมโดยไม่ได้จัดการการคำนวณหรือความเห็นร่วมโดยตรง แต่ใช้โมเดลทางเศรษฐศาสตร์และการตรวจสอบโดยการเฉื่อยเพื่อให้มั่นใจในความแม่นยำของผลลัพธ์การคำนวณ มีการเสนอแนวทางใหม่ในการคำนวณแบบกระจายอย่างไรก็ตาม การคำนวณที่สามารถยืนยันได้ที่นำมาใช้โดย SCP ถูกดูแลและยืนยันนอกเครือ ซึ่งทฤษฎีเป็นการเสี่ยงที่ตรวจสอบนอกเครือไม่เพียงพอ ในขณะที่ความเป็นไปได้ในสถานการณ์การคำนวณของขนาดใหญ่ยังต้องการการยืนยันจากตลาด แต่มุมมองในอนาคตนั้นมีความหวัง

คำเดียว

1. บทความนี้ถูกพิมพ์ซ้ำจาก [Gatepermadao], ชื่อเรื่องต้นฉบับคือ “ประวัติศาสตร์การวิวัคราดเฉพาะของบริการคลาวด์แบบกระจาย: จาก DFINITY IC ถึง Arweave AO”, ลิขสิทธิ์ของผู้เขียนต้นฉบับPignard ], if you have any objection to the reprint, please contact Gate Learn Team, ทีมจะดำเนินการให้เร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. คำชี้แจง: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้แทนเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เป็นส่วนหนึ่งของคำแนะนำในการลงทุนใด ๆ

3. เวอร์ชันภาษาอื่นของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn ที่ไม่ได้กล่าวถึงในGate.io, บทความที่ถูกแปลอาจไม่นำเสนอ กระจายหรือทำการลอกเลียน